การใช้ if else ใน KnockoutJS

การใช้ if else ใน KnockoutJS นั้นทำได้โดยการใช้ ko.if() หรือ ko.unless()

ko.if() จะแสดงองค์ประกอบ DOM เฉพาะเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง

Syntax ของ ko.if() คือ:

1
ko.if(condition, content)

โดยที่ condition คือเงื่อนไขที่คุณต้องการทดสอบและ content คือเนื้อหาที่จะแสดงเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง

ตัวอย่างเช่น:

1
2
3
<div data-bind="if: isLoggedIn">
<p>คุณเข้าสู่ระบบแล้ว</p>
</div>

สิ่งนี้จะแสดงข้อความ “คุณเข้าสู่ระบบแล้ว” เฉพาะเมื่อคุณสมบัติ isLoggedIn มีค่าเป็น true

ko.unless() จะแสดงองค์ประกอบ DOM เฉพาะเมื่อเงื่อนไขเป็นเท็จ

Syntax ของ ko.unless() คือ:

1
ko.unless(condition, content)

โดยที่ condition คือเงื่อนไขที่คุณต้องการทดสอบและ content คือเนื้อหาที่จะแสดงเมื่อเงื่อนไขเป็นเท็จ

ตัวอย่างเช่น:

1
2
3
<div data-bind="unless: isLoggedIn">
<p>คุณยังไม่ได้เข้าสู่ระบบ</p>
</div>

สิ่งนี้จะแสดงข้อความ “คุณยังไม่ได้เข้าสู่ระบบ” เฉพาะเมื่อคุณสมบัติ isLoggedIn มีค่าเป็น false

Here are some examples of how you can use if else in KnockoutJS:

  • You can use if else to show different content based on the value of a property:
1
2
3
4
5
6
<div data-bind="if: isLoggedIn">
<p>คุณเข้าสู่ระบบแล้ว</p>
</div>
<div data-bind="unless: isLoggedIn">
<p>คุณยังไม่ได้เข้าสู่ระบบ</p>
</div>
  • You can use if else to show or hide an element based on the value of a property:
1
2
3
<div data-bind="if: isLoggedIn">
<input type="text" data-bind="value: username"/>
</div>
  • You can use if else to perform different actions based on the value of a property:
1
<button data-bind="if: isLoggedIn, click: logOut">ออกจากระบบ</button>

if else เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สามารถใช้ในการควบคุมการแสดงผลขององค์ประกอบ UI ของคุณ การใช้ if else คุณสามารถทำให้แอปพลิเคชันของคุณตอบสนองและใช้งานง่ายยิ่งขึ้น